เคยสงสัยกันไหมว่า...ทำไมรถรับจ้างขนของต้องมีค่ามัดจำ? ในปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่ารถรับจ้างมีผลต่อการใช้ชีวิตของคนในยุคนี้เป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะขนย้ายสิ่งของอะไรสิ่งแรกที่นึกถึงก็คงเป็น “รถรับจ้างขนของ” เพราะทั้งสะดวก รวดเร็ว แต่เมื่อตัดสินใจว่าจะใช้บริการทางบริษัทก็จะเรียกโอนค่ามัดจำมาก่อนเสมอ และบทความนี้จะมาอธิบายถึงเหตุผลที่ว่า ทำไมรถรับจ้างขนของต้องมีค่ามัดจำ? เพื่อให้ผู้ที่มาใช้บริการรถรับจ้างขนของมีความเข้าใจและหมดความกังวลในการมาใช้บริการรถรับจ้างขนของ
1. ได้วันเวลานัดหมายตามที่ต้องการ
เมื่อลูกค้าทำการโอนค่ามันจำแล้ว ทางด้านบริษัทก็จำทำการล็อกวันเวลาและประเภทของรถตามที่ลูกค้าต้องการทันที เมื่อถึงวันเวลาที่ต้องเข้าไปให้บริการ ลูกค้าไม่ต้องกังวลว่าจะมีรถให้ใช้งานหรือไม่เพราะการโอนค่ามัดจำมาก่อนถือเป็นหลักค้ำประกันว่าได้ทำการจองไว้แล้ว นี้จึงเป็นเหตุผลที่ทางบริษัทต้องเรียกเก็บค่ามัดจำก่อนเบื้องต้น
เพราะการโอนเงินทุกครั้งถือเป็นหลักฐานที่บ่งบอกว่าได้มาใช้บริการรถรับจ้างขนของเพราะมีหลักฐาน คือ ใบสลิปการโอนเงินค่ามัดจำ และหากเกิดเหตุการณ์ที่ถูกหลอกหลวงช่อโกงผู้ใช้บริการสามารถนำหลักฐานการโอนไปแจ้งความได้กรณีเกิดเหตุการณ์ ซึ่งแนะนำว่า ก่อนโอนเงินควรสอบถามทางบริษัทให้แน่ใจก่อนว่าชื่อบัญชี/หมายเลขบัญชีนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ ตรวจสอบให้ละเอียดก่อนโอน ชื่อถูกต้องตรงกันก็ถือว่าปลอดภัย
3. ป้องกันการเลื่อนหรือยกเลิก
ในกรณีที่เมื่อถึงวันเวลาที่ต้องให้บริการลูกค้า แล้วลูกค้าทำการเลื่อนวันเวลานัดหมายหรือยกเลิกกะทันหัน ซึ่งทำให้ทางบริษัทเกิดความเสียหาย เช่น เสียโอกาสในการรับงานอื่น ๆ เสียค่าน้ำมัน เป็นต้น และเพื่อเป็นการป้องกันทั้งตัวผู้ใช้บริการเองหรือทางบริษัทเองจึงต้องเรียกเก็บค่ามัดจำก่อนให้บริการทุกครั้งเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
พอจะทราบถึงเหตุผลที่ ทำไมรถรับจ้างขนของต้องเก็บค่ามัดจำ? กันแล้วใช่ไหมครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อป้องกันทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการเกิดความมั่นใจในการใช้บริการรถรับจ้างขนของมากยิ่งขึ้น และเงินที่เป็นส่วนของค่ามัดจำ เมื่อให้บริการเสร็จเรียบร้อยแล้ว เงินค่ามัดจำเราจะไม่คืนแต่จะถูกนำไปลบกับค่าบริการซึ่งลูกค้าก็จะจ่ายเฉพาะเงินส่วนที่เหลือเพียงเท่านั้นครับ